I can’t Yeryeo เรื่องสั้น - I can’t Yeryeo เรื่องสั้น นิยาย I can’t Yeryeo เรื่องสั้น : Dek-D.com - Writer

    I can’t Yeryeo เรื่องสั้น

    I can’t Yeryeo จะรู้สึกยังไงเมื่อโอาสสุดท้ายมาถึง ติดตามได้ในเรื่องสั้นนี้ ใครชอบดร่าม่าน้ำตาตกเรื่องนี้ยินดีต้อนรับค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,340

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    2.34K

    ความคิดเห็น


    46

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ก.ค. 54 / 10:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    I can’t Yeryeo

    Creat : blueink หมึกสีฟ้า

    Note. ฟิคดราม่าใครชอบน้ำตาตกเรื่องนี้เปิดกว้างให้คนชอบเสียน้ำตาค่ะ

     

    07/02/2554

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      I can’t Yeryeo

      Creat : blueink หมึกสีฟ้า

      Note. ฟิคดราม่าใครชอบน้ำตาตกเรื่องนี้เปิดกว้างให้คนชอบเสียน้ำตาค่ะ

       

       

      “จะมีใหม่เมื่อไหร่ก็บอกนะ”

      คำที่เรียวอุคพูดออกปากมา ทำให้ผมรู้สึกหน่วงที่หัวใจ ….

      เขาหรือผมที่หมดรักกันแล้วเป็นเขาหรือผมที่คิดจะทิ้งอีกคนไป

      ถ้าในวันที่เวลาที่เราด้วยกันมีมากขึ้นไปเรื่อยๆ ความรักเราไม่เพิ่มไปตามเวลานั้นหรอ

      ยิ่งนับวันนับปีที่คบกันมาความรักเรายิ่งจืดชืดจนแทบจะกลายเป็นสายลมให้จับต้องไม่มีอะไรมากไปกว่าความว่างเปล่าและความรู้สึกกดดันที่มองไม่เห็น

      ผมกับเขาเดินมาจนสุดทางรักเราแล้วใช่ไหม

       

      แกร๊ง

      เสียงโยนช้อนลงในอ่างล้างจานพร้อมกับใบหน้าหวานที่หันมามอง ใบหน้านั้นจืดสนิท สายตาที่ทอดมองอีกคนออกมาบ่งบอกคำว่า หงุดหงิด

      “น่าเบื่อ”

      อีกคนที่มองก็ยืนขึ้นทันที หลังๆมานี้พวกเขาสองคนชอบทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง  บางเรื่องที่ไม่ควรมีปัญหา ก็ถูกจับมาเป็นประเด็น

      “เรียวอุค”

      อีกคนพูดเรียกชื่อคนตัวเล็กกว่า เรียวอุคเดินย่ำเท้าไวๆหยิบกระเป๋าสะพายข้างขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป

      เมื่ออีกคนไม่ออกไปให้พ้นหน้าเค้าก็เบื่อที่จะต้องนั่งทนมองใบหน้านี้

      เยซองทำได้เพียงยืนนิ่งมอง เค้าเดินช้าๆไปที่ริมหน้าต่างมองคนตัวเล็กที่ยกมือถือคุยกับใครบางคนซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่าใคร

      เมื่อก่อนตอนที่ทะเลาะกันเราสองคนก็ยังรู้สึกได้ถึงคำว่ารัก แต่ตอนนี้พอเรามีปัญหากันเรากลับไม่รู้สึกที่จะให้อภัยอีกคนเลย

      ……………………

      กึก!

      เยซองหันมาก่อนจะทุบมือหนาลงกับโต๊ะ เค้าหยิบกุญแจก่อนจะออกจากห้องไปเช่นกัน มือหนาหยิบกุญแจรถไว้ก่อนจะลงลิฟต์ไปชั้นล่าง เค้าขึ้นรถไวๆก่อนจะออกตัวรถไป

       

       

      “เรียวอุค พี่เยซองเค้าโทรหาถามว่านายอยู่กับฉันไหม”

      เรียวอุคที่นั่งหยิบแก้วน้ำยกดื่มก็หันมามองหน้าเพื่อน เค้ามองออกไปผ่านกระจกใสของร้านอาหาร ปากบางยกขึ้นเอ่ยช้าๆ

      “จริงไหมที่รักเรามีวันหมดอายุ”

      ซองมินที่นั่งตรงข้ามนิ่งสนิท เค้าเงียบก่อนจะฟังคำพูดคล้ายๆเลื่อนลอยของเรียวอุค

      “สักวันเราต้องเบื่อคนตรงหน้าไม่รักกันเหมือนเดิม

      “นายสองคนเหนื่อยหรือเปล่าเลยไม่ค่อยมีเวลาให้กัน”

      เรียวอุคเหม่อออกไปอีก เค้าพูดเสียงเบาแต่ก็ยังพอจับใจความได้

      “ฉันว่าฉันหมดรักพี่เยซองซะแล้วหล่ะซองมิน”

      เรียวอุคหันมองหน้าซองมินก่อนจะยิ้มบาง “แล้วนายรู้ไหมพี่เค้าก็รู้สึกเหมือนฉัน”

      ซองมินมองหน้าอย่างสังสัยก่อนจะเอ่ยถาม

      “ถามเค้าหรือยัง”

      “ยังแต่ฉันเจอเค้ากับผู้หญิงคนนึง ฉันถามเค้าแล้ว..ผู้หญิงคนนั้นเคยมีอะไรกับพี่เยซองแล้ว และพี่เค้าก็รู้ว่าฉันรู้เรื่องนี้”

      ซองมินพยักหน้าในใจก็คิดจะปลอบใจเพื่อนให้คิดอีกครั้ง

      “แล้วนาย..

      เอ่ยออกมาก่อนจะเงียบไป เรียวอุคหายใจเบาๆก่อนจะนิ่งมองแก้วน้ำใส

      “ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกัน

      ซองมินเงยหน้ามองเพื่อนก่อนจะถามทันที

      “กับใครเรียวอุค”

      “พอดีเจอกันตอนทำงานเมื่อสามเดือนที่แล้วหน่ะ เด็กว่าฉันหน่อยนึง”

      เรียวอุคยกมือถือขึ้นมาก่อนจะชูให้ดูแล้วบอกเสียงเบา

      “โทรมาหล่ะ”

      “ฮัลโหล อ่าฮ่ะๆ”

      คนตัวเล็กรับสายก่อนจะพูดเบาๆ “พี่เยซอง”

      มือถือคนตัวเล็กล่นลงจากกกหูก่อนจะมองหน้าอีกคน เยซองมองเรียวอุคไม่ยอมละสายตา เค้าเข้ามาที่ร้านเพราะซองมินแอบตอนคุยโทรศัพย์บอกว่าเรียวอุคอยู่ที่นี่

      “พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม”

      เรียวอุคนิ่งก่อนจะพยักหน้า “ได้ซิไว้ผมกลับห้องแล้วเราค่อยคุยกัน”

      “จะได้จบๆ”

      เค้าพูดอีกครั้งก่อนจะมองหน้าคนตัวใหญ่ ซองมินลุกขึ้นก่อนจะจับบ่าพี่ชายคนโตให้นั่งลงที่เก้าอี้เค้าแทน

      “คุยกันเลยก็ได้ครับผมก็จะกลับแล้วพอดี”

      เยซองนั่งลงก่อนจะพูดเสียงตึงเครียด

      “พี่ขอโทษ”

      เค้าพูดก่อนจะมองหน้าคนตัวเล็ก เยซองมองหน้าคนตัวบางก่อนจะพูดเพียงคำสั้นๆ

      “อย่าเลิกกับพี่นะ”

      เรียวอุคหายใจแรงก่อนจะส่ายหน้า

      “ผมก็ไม่รู้หรอก วันนี้พี่อาจบอกว่าผมยังเป็นแฟนพี่แล้วถ้าพรุ่งนี้ผมกลายเป็นแฟนเก่าพี่ไปหล่ะ”

      “วันนี้ชีวิตคู่เรายืนอยู่บนความไม่แน่นอน พี่ไม่รู้สึกเหมือนผมหรอทำไมยิ่งเราเจอกัน..เรายิ่งรู้สึกว่าอยากจะหนีคนตรงหน้าไป”

      เยซองมองหน้าเรียวอุคก่อนจะวางมือลงบนโต๊ะเค้าเลื่อนรูปถ่ายแล้วไสไปวางหน้าเรียวอุคผ่านโต๊ะไม้ลื่นๆ

      “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

      เรียวอุคก้มมองรูปภาพก่อนจะพูดบอกเยซองรวดเร็วทว่ากลับหลบสายตา รูปภาพนั้นเรียวอุคกำลังพูดคุยกับผู้ชายอีกคนร่างสูงโปร่งหยอกล้อมากเกินกว่าเพื่อน ใช่คนนี้คือคนที่เค้ากำลังคิดจะคบอยู่

      “สามเดือน”

      เยซองพูดด้วยเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่กักเก็บไว้

      “ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พี่กลายเป็นส่วนเกินของนาย”

      เค้าพลาดเค้าผิดเค้าก็ยอมรับ แต่เค้าก็ยังรักและหวงคนตัวเล็กอยู่ เค้าสำนึกกับความใจง่ายของตัวเค้าเองที่นึกสนุกไปชั่วขณะ..

      ตอนนี้เค้าไม่อยากเสียคนตัวเล็กไป ..

      “ผมรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตวันที่รู้ว่าพี่ไปหลับนอนกับคนอื่น”

      เรียวอุคพูดก่อนจะมองหน้าเยซอง

      “สำนึกกับคำอธิบายของพี่สุดท้ายข้ออ้างว่าพลาดของพี่ก็ทำให้ผมคิดว่ามันเป็นเหตุผลแก้ตัวยังไงซะก็ฟังไม่ขึ้น”

      เยซองนิ่งก่อนจะยื่นของบางอย่างให้เรียวอุค เค้าหยิบยื่นมันให้คนตัวเล็กก่อนจะพูดเสียงเบา

      “นายลืมกุญแจห้องตอนออกมา ถ้ายังไม่อยากกลับตอนนี้ก็โทรหาพี่นะเดี่ยวพี่ออกมารับ สบายใจเมื่อไหร่ก็โทรหาพี่นะ วันนี้ก็อย่ากลับดึกหล่ะ”

      คนตัวใหญ่ลุกขึ้นไปเค้าออกจากร้านอาหารทันที เรียวอุคมองลูกกุญแจก่อนจะยื่นมือกำมันไว้

      รู้สึกแบบนี้อีกแล้ว

      พี่จะจัดการปัญหาแบบนี้เสมอ

      ตัดบทตลอดเวลาแล้วก็หนีผมไป

      “จะรั้งผมไว้ทำไม ที่รั้งไว้เพราะรักหรือหวง”

       

      เป็นเวลาดึกที่เรียวอุคกลับเข้าห้องพักในอพาร์ทเมนต์ที่พักกับเยซอง เค้าเปิดประตูเข้าไปในห้อง วันนี้ห้องมืดสนิทเลย..

      พี่คงยังไม่กลับ..

      คนตัวเล็กล้มตัวลงนอนลงเตียงก่อนจะมองไปรอบๆห้อง อากาศวันนี้เย็นแปลกๆ เค้าเดินไปก่อนจะเข้าห้องน้ำแล้วอาบน้ำก่อนจะออกมานั่งดูทีวีเพราะว่ายังไม่ง่วงอีกอย่างก็อยากคิดอะไรเรื่อยๆด้วย

      “เรียวอุคกินอะไรหรือยังดึกแล้วนะ”

      เยซองพูดบอกทว่าเรียวอุคกลับเงียบและไม่ยอมพูด

      ………………….

      คนตัวใหญ่มองหน้าเรียวอุคก่อนจะเขยิบตัวไปห่างคนตัวเล็ก แล้วมองทีวีบ้าง

      ปิ๊ด!

      เสียงกดรีโมททีวีกดปิดทำให้เยซองหันมองหน้าเรียวอุค

      “พี่นั่งดูอยู่นะ”

      เรียวอุคหันมองไปที่หน้าเยซองก่อนจะหันมองทีวีแล้วลุกขึ้นเดินไวๆก่อนจะเข้าห้องนอนแล้วปิดประตูห้องเสียงดัง

      …………………

      เยซองถอนหายใจกับการกระทำเรียวอุคก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา เค้าเงยหน้านอนเอามือก่ายหน้าผากมองเพดาน

      รู้สึกแย่

       

      เช้าของวันใหม่คนตัวเล็กตื่นก่อนจะหยิบมือถือออกไปโทรคุยหน้าตาเครียดนอกระเบียงเยซองมองก่อนจะนิ่ง เค้าเดินไปใกล้ระเบียงที่เลื่อนกระจกปิดไว้ก่อนจะล้มเลิกความตั้งใจเปิดมันออก

      ไม่อยากฟังหรอก ถ้านายคุยกับคนอื่น

       

      เรียวอุคเปิดประตูเข้ามาทันทีพร้อมกับเดินย่ำเท้าแรงๆเยซองเอี้ยวหลบก่อนจะมองตามหลังคนตัวเล็ก เรียวอุคเดินไปพร้อมกับปิดประตูห้องนอน เยซองที่เห็นก็เดินช้าๆไปพร้อมกับเอาหูแนบประตู

      เสียงสะอื้นเบาๆของคนตัวเล็กทำให้เยซองใจคอไม่ดี เค้าเอ่ยถามคนตัวเล็ก

      “เรียวอุคร้องไห้ทำไม เป็นอะไรไป เปิดประตูให้พี่ทีซิ”

      “ฮึกฮึก

      เพร้ง!!

      เสียงเขวี้ยงของมาที่ประตูทำให้เยซองถอนหายใจก่อนจะมองคิ้วขมวด

      “เรียวอุคเปิดซิ เป็นอะไรไป นายเป็นอะไรหรือเปล่าพี่เป็นห่วงนายนะ เปิดหน่อย”

      เรียวอุคไม่ยอมที่จะตอบ เยซองที่เปิดเข้าไปไม่ได้ก็นั่งข้างๆประตู แล้วพูดอีกครั้งกับคนข้างใน

      “ทำไมเดี่ยวนี้เราปิดกั้นไม่อยากเจอกันขนาดนั้นเลยหรอเรียวอุค”

      “เมื่อก่อนเราก็มีความสุขดีหนิเรียวอุค”

      เค้าเงยหน้ามองทอดเหม่อออกไปพร้อมกับพูดบอกคนตัวเล็ก

      “ตอนแรกที่รักกันกว่าพี่จะรวบรวมความกล้าบอกรักนายขอนายคบกว่าจะบอกกว่าจะทำ

      “เราลืมมันไปได้ไหม ทั้งเรื่องนายเรื่องพี่ กลับมาอยู่กันเหมือนแต่ก่อน

      “ถึงจะเห็นแก่ตัวแต่ถ้าเรายิ่งจำมัน มันก็ยิ่งทำร้ายใจเรานะ”

      เค้าเงียบไปอีกนาน จนตกเย็นเรียวอุคก็เปิดประตูห้องออกมาพร้อมกับดวงตาทีแดงคล้ำ เยซองมองคนตัวเล็กที่เดินเข้าไปในครัวทำอาหารเค้าก็ยิ้มทว่าเรียวอุคกลับไม่ยอมหยุดร้องไห้

      “หิวหล่ะซิ”

      เยซองล้อคนตัวเล็กก่อนจะเดินไปนั่งโต๊ะทานอาหารแล้วช้อนตามองเรียวอุค

      “หอมจัง ทำเพื่อพี่ด้วยนะ”

      เรียวอุคไม่ได้ตอบ  เยซองมองหลังคนตัวเล็กก่อนจะยิ้ม เค้านั่งรอจนเรียวอุคยกอาหารมาวางบนโต๊ะเล็กๆ โต๊ะที่นั่งเล็กและมีเพียงสองเก้าอี้ ทำให้เยซองนั่งใกล้เรียวอุคมากขึ้นไปอีก

      จานข้าวถูกวางหน้าเยซอง เรียวอุคก้มหน้าก่อนจะตักอาหารให้เยซอง เงียบไม่มีใครพูดอะไร

      เยซองมองจานข้าวก่อนจะบอกเรียวอุค

      “พอแล้วเยอะแล้วพี่กินไม่หมดหรอก”

      เรียวอุคหยิบน้ำก่อนจะรินแล้วเลื่อนแก้วไปวางให้เยซองข้างๆ

      “พี่เยซองผมยกโทษให้พี่ตั้งนานแล้วนะครับ”

      เยซองที่กำลังหยิบช้อนก็เงยหน้ามองคนตัวเล็กเรียวอุคจ้องมองมาที่เค้าก่อนจะพูดอีก

      “วันนั้นทำไมพี่ไม่รั้งผมต่อหล่ะครับ พี่ทำไมไม่นั่งที่ร้านต่อ”

      เรียวอุคเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา “ทำไมพี่ไม่อยู่กับผมก่อนหล่ะครับ”

      เยซองนิ่งก่อนจะพูดเสียงเบา “เพราะพี่กลัวนายไม่อยากเห็นหน้าพี่ แล้วพาลบอกเลิกพี่ที่นั่น”

      “พี่ครับทำไม..พี่ชอบหนีผมไปทุกที..ฮึก..

      เรียวอุคสะอื้นออกมาก่อนจะมองหน้าเยซอง

      “ไหนพี่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผมไง….

      “ไหนว่าไม่อยากให้ผมบอกเลิกไงแล้วทำไมพี่ทิ้งผมไปหล่ะครับ..

      เยซองมองหน้าเรียวอุคก่อนจะพูด

      “พี่ไม่ได้ทิ้งนานเรียวอุคพี่ไม่ได้ทิ้งนาย พี่จะทิ้งนายได้ยังไง พี่ทิ้งนายไม่ได้หรอกพี่ทิ้งนายไม่ลงหรอก เลิกร้องไห้ได้แล้ว”

      เรียวอุคยังคงสะอื้นมองหน้าเยซอง เค้าร้องไห้อยู่นานก่อนจะพูดออกมา

      “ดึกแล้วนะพี่เยซองพี่ไม่หิวหรอทำไมไม่กลับมาหาผมสักทีหล่ะครับ..

      “พี่อยู่นี่ไงข้างๆนาย”

      เยซองขมวดคิ้วก่อนจะเอื้อมมือไปเตะใบหน้าเรียวอุค เค้าอยากซับน้ำตาให้คนตัวเล็ก อยากซับน้ำตาให้เรียวอุค

      ทว่าวินาทีต่อมาคนตัวใหญ่กลับตกใจ เมื่อมือเค้าผ่านหน้าคนตัวเล็กไป

      “ทำไม”

      เค้ามองมืออีกครั้งก่อนจะเอื้อมไปจับหน้าเรียวอุค มือหนาผ่านหน้าไปราวกับตัวเค้าเป็นอากาศ เรียวอุคลุกขึ้นก่อนจะเดินไปด้านหลังเยซอง เค้ามองรูปภาพที่ตั้งหลังเก้าอี้อีกตัวตลอดช่วงเลาที่พูดเมื่อกี้

      เยซองลุกตามทันทีก่อนจะเดินไปด้านหลังเรียวอุค กระจกสะท้อนเงาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าเค้าแทบจะติดกัน ทว่ากลับไม่สะท้อนร่างของเค้า เค้าไม่มีตัวตนอยู่ในกระจกเลยสักนิด..

      “ไหนว่ารักผมไง ไหนว่าไม่ทิ้งไงแล้วทำไมพี่ทำแบบนี้ครับ

      เรียวอุคกอดรูปก่อนจะสะอื้น เยซองหลั่งน้ำตาออกมาเค้าจะเอื้อมมือค้อมคนตัวเล็ก เค้ายืนใช้มือกอดเรียวอุคไว้โดยไม่ให้ถูกตัว

      เรียวอุคที่ร้องไห้ค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสะอื้น

      “พี่ไม่รู้หรอว่าผมรักพี่ไม่มีพี่แล้วผมจะอยู่ยังไง

      “พี่ทิ้งผมไปได้ยังไงพี่เยซอง

      เยซองนั่งลงข้างๆคนตัวเล็กก่อนจะพูดทั้งน้ำตา

      “เรียวอุคพี่ตายแล้วหรอ

      “ได้ยินพี่ไหม?นายไม่ได้ยินหรอกหรอ”

      เยซองลำดับภาพในหัวเค้าออกมาจากร้านแล้วขับรถออกมาตามทางตอนนั้นเค้าจำได้ว่าหักหลบรถอีกคันที่พุ่งสวนเลนถนนมา..แล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย

      “พี่ไม่ได้ทิ้งนายนะแต่พี่ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ

      เค้าเอื้อมมือไปจับคนตัวเล็กทั้งน้ำตา ถ้าเรียวอุคมองเห็นคงจะเห็นเยซองที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาที่กำลังเอื้อมมือสั่นไปจับต้องหน้าคนตัวเล็ก ทว่ากลับจับต้องไม่ได้

      “พี่เยซอง! ไหนบอกว่ารักผมไงฮึก..

      เรียวอุคเงยหน้าก่อนจะพูดเสียงดังลั่นห้อง เยซองที่นั่งอยู่ข้างๆก็ยกมือลูบผมคนตัวเล็ก

      “รักซิทำไมจะไม่รัก

      เยซองก้มมองตัวเค้าก่อนจะรู้สึกว่าสีตัวเค้าค่อยๆจางลง นี่หรอโลกแห่งความตายเวลาหมดลงแล้วหรอ?

      “ถ้านายร้องไห้พี่จะไม่สบายใจนะอย่าร้องซิ”

      ปากก็บอกแต่ตัวเองกลับร้องไห้เอง เรียวอุคลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปห้องนอน เค้ากอดรูปบานเล็กก่อนจะร้องไห้ เยซองนั่งลงบนเตียงก่อนจะภาวนาในใจ

      ….ถ้าเวลาสุดท้ายของผมหมดแล้วจริงๆผมขอกอดเค้าครั้งสุดท้ายได้ไหม

       

      หยดน้ำตาใสไหลอาบลงแก้ม เยซองมองน้ำใสที่ใส่ปลาตัวเล็กไว้ในห้องให้เรียวอุคเลี้ยงดูเล่น เค้าเห็นใบหน้าตัวเองผ่านน้ำเต็มไปด้วยคราบเลือด ร่างใหญ่หันมามองเรียวอุคก่อนจะพูดเสียงเบาและแหบพร่า

      “ผมขอกอดเค้าครั้งสุดท้ายได้ไหมครับ แล้วจะไม่ขออะไรเลยผมจะไปตามทางที่ผมต้องไป”

      เรียวอุคนอนสะอื้นก่อนจะหลับตาไป เค้านอนหลับเพราะเพลียจากการร้องไห้ทั้งวัน เยซองรู้สึกตัวอุ่นๆ เค้าแบมือก่อนจะเอื้อมมือช้าๆไปเตะตัวเรียวอุค สัมผัสเนื้ออุ่นๆของเรียวอุคทำให้เยซองรู้สึกดีใจจนยิ้มออกมาเค้าได้โอกาสนั้น

      เรียวอุคลืมตาก่อนจะทำท่าลุกขึ้น แต่เยซองกลับส่ายหน้าพร้อมกับบอกให้เรียวอุคนอนต่อ

      “ไม่ต้องลุกหรอก เดี่ยววันนี้พี่จะนอนกับนาย”

      เยซองขยับตัวก่อนจะนอนลงไปข้างๆเรียวอุค เค้าหยิบผ้าห่มขึ้นมาก่อนจะกอดเรียวอุคที่หันมากอดเค้า

      “พี่..

      เรียวอุคก็ยังคงร้องไห้อยู่ เยซองก็เอ่ยปากบางพูดบอกคนตัวเล็ก

      “พี่รักนายนะ

      เผลาะ..

      น้ำตาคนตัวใหญ่ไหลลงมาเค้าหายใจแรงก่อนจะมองหน้าเรียวอุคมองตาเค้า “ที่พี่ไม่ค่อยได้บอกรักนาย..เพราะพี่กลัวนายจะเบื่อ กลัวคำว่ารักพี่จะไร้ค่า”

      “ถ้าเป็นไปได้ พี่จะบอกรักนายบ่อยๆเลยนะ ”

      น้ำตาคนตัวใหญ่ร่วง เรียวอุคกอดตัวเยซองไว้ก่อนจะพยายามพูด หากแต่ปากเค้ากลับเอ่ยออกมาสักคำไม่ได้ เพราะอะไรกันปากมันทื่อไปหมดเลย แข็งพูดไม่ออกทั้งที่พยายามพูดแล้ว

      “ที่นายไม่เคยบอกพี่ว่ารักว่ายกโทษให้ตอนนี้พี่รับรู้แล้วนะ”

      เยซองมองหน้าคนตัวเล็กก่อนจะหันหน้าไปใกล้เรียวอุคพร้อมกับพูดเสียงแหบพร่า

      “เค้าคงให้เราได้แค่นี้ ”

      เยซองพูดเหมือนรู้ว่าเรียวอุคจะพูดบอกว่าอะไร เรียวอุคกอดเยซองไว้แน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง

      “ยกโทษให้พี่นะ

      เยซองรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเหมือนมีอะไรวนในตัวสมัสร้อนเย็นสลับกันวูบวาบ เวลาเค้าจะหมดแล้วซินะ เค้าก้มมองคนตัวเล็กก่อนจะพูดเสียงเบาราวกับใกล้เวลาสุดท้ายเข้ามาทุกที

      “นอนซะอย่าร้องไห้”

      เค้าเช็ดน้ำตาให้เรียวอุค ก่อนจะพูดอีกครั้ง

      “ ถ้าพรุ่งนี้นายตื่นแล้วไม่เจอพี่

      “ฮึกฮึก

      เรียวอุคร้องไห้ออกมาพร้อมกับสะอื้นเมื่อได้ยินคำพูดเยซอง

      “ให้นายรู้ไว้ว่าพี่อยู่รอบตัวนายเสมอ พี่จะอยู่ข้างๆนาย

      เรียวอุคกอดเยซองก่อนจะสะอื้น สัมผัสคนตัวใหญ่ลูบเส้นผมเบาๆก่อนที่มันจะค่อยๆหายไปจนสุดท้ายเรียวอุคก็ไม่รู้สึกถึงสัมผัสนั้นแล้ว…. เค้ายังคงนอนอยู่อย่างนั้นพร้อมกับร้องไห้ ตอนนี้ปากเค้ารู้สึกพูดได้แล้วแต่ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี

      ……………………………….

      เยซองจากไปแล้ว ทิ้งให้คนตัวเล็กอยู่เพียงลำพัง  เค้ายังคงยืนมองเรียวอุคจากที่ไกลๆหากแต่คนตัวเล็กมองไม่เห็น

       

      โอกาสสำหรับการดูแล บางครั้งสำหรับใครบางคนก็เป็นไปไม่ได้ คุณหล่ะเคยทำผิดหรือเปล่าตอนนี้คุณยังมีโอกาสนั้นอยู่ไหม เค้าคนนั้นยังอยู่ข้างๆคุณหรือเปล่า? ถ้าเค้ายังอยู่จะดีกว่าไหมถ้าเราได้บอกความรู้สึกก่อนที่จะไม่มีโอกาส

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×